รีวิวเกม Death Stranding 2: On the Beach – ให้คะแนน 5 ดาวกับการเดินทางของขนส่งที่ยอดเยี่ยม

ปี 2025 ดูเหมือนจะเป็นอีกปีที่น่าจดจำสำหรับเกมเมอร์หลายคน เพราะเพียงแค่ครึ่งปีแรก เราก็ได้เห็นเกมคุณภาพมากมายที่เปิดตัวแล้ว และตอนนี้ถึงเวลาของ Death Stranding 2: On the Beach กันแล้ว

ภาคต่อของหนึ่งในเกมที่สร้างความถกเถียงมากที่สุดในปี 2019 จะมีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นแค่ไหน? หรือจะมีจุดด้อยที่เห็นได้ชัด? นอกจากนี้ มันจะสามารถเปลี่ยนใจผู้ที่ไม่ชอบภาคแรกได้หรือไม่? หลังจากที่ได้เล่นเกมนี้ตั้งแต่ต้นจนจบใช้เวลามากกว่า 40 ชั่วโมง นี่คือความคิดเห็นของผมเกี่ยวกับเกมนี้ เชิญอ่านบทรีวิวฉบับเต็มของ Death Stranding2: On the Beach ได้เลยครับ

เปิดฉากสงครามส่งด่วนครั้งใหม่!

11 เดือนหลังจากเหตุการณ์ในภาคแรกที่ Chiral Network เชื่อมต่ออเมริกาเหนือ Sam ตัวเอกของเราใช้ชีวิตเงียบๆ เพื่อดูแลน้อง Lou ที่เหมือนลูกสาวของเขา แต่แล้วภารกิจใหม่ก็มาถึง!

Sam ต้องเชื่อมต่อเม็กซิโกเข้าสู่ Chiral Network ก่อนที่สถานการณ์จะพลิกผัน เขาจะต้องเดินทางข้ามทวีปไปกับเพื่อนเก่าและใหม่บนยาน DHV Magellan เพื่อเชื่อมต่อออสเตรเลีย พร้อมตามหาความลับของน้อง Lou

Death Stranding 2: การพัฒนาเกมที่ตอบโจทย์ผู้เล่น

ในฐานะที่เป็นเกมภาคต่อ การเล่าเรื่องใน Death Stranding 2 ไม่จำเป็นต้องปูพื้นฐานโลกที่ผู้คนถูกตัดขาดออกจากกันมากเท่าภาคแรก ทำให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงเกมเพลย์พื้นฐานได้อย่างรวดเร็วขึ้น

นอกจากนี้ ระบบ Corpus (คอร์ปัส) ที่ทำหน้าที่เป็นสารานุกรมแบบ Interactive ได้ถูกนำมาใช้ในบางคัตซีน เพื่อช่วยให้ผู้เล่นที่ต้องการเข้าใจกลไกของโลกนี้สามารถทำได้โดยไม่ต้องมีบทพูดอธิบายมากเกินไป

ผู้เล่นยังสามารถเลือกถาม NPC เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ตามต้องการ ซึ่งช่วยให้การดำเนินเรื่องมีความกระชับและรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการข้อมูลสำคัญโดยไม่รู้สึกตกหล่น ในขณะเดียวกัน ผู้เล่นที่ต้องการซึมซับรายละเอียดก็สามารถขวนขวายข้อมูลเพิ่มเติมได้อย่างง่ายดาย

Death Stranding2 จึงเป็นตัวอย่างที่ดีของการพัฒนาเกมที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้เล่นในยุคปัจจุบัน!

การใช้นักแสดงมืออาชีพในคัตซีนของเกมทำให้มีความน่าสนใจ ด้วยเสียงพากย์และการแสดงที่ช่วยถ่ายทอดเรื่องราว แม้ว่าคัตซีนจะมีความยาวเพียง 2-3 นาทีและไม่บ่อยนัก แต่ช่วยให้เนื้อเรื่องสื่อสารกับผู้เล่นได้ชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงท้ายที่สรุปเรื่องราว ทำให้ผู้เล่นเข้าถึงธีมที่คุ้นเคย เช่น ชีวิต ความตาย และความหวัง ได้ง่ายขึ้น

เกมเพลย์ในภาคนี้เน้นการเดินทางและการส่งของ โดยมีภารกิจที่มีเงื่อนไขพิเศษ เช่น ห้ามพัสดุโดนน้ำหรือแดด ทำให้ต้องเลือกเวลาและเส้นทางอย่างระมัดระวัง ยานพาหนะเข้าถึงได้เร็วขึ้นและถูกออกแบบให้ใช้งานได้ดีกว่าเดิม โดยสามารถติดอุปกรณ์เสริม เช่น แขนกลและปืนอัตโนมัติ แต่การเดินเท้ายังคงมีข้อได้เปรียบในบางสถานการณ์ที่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้เร็วกว่า

ระบบเปิดแผนที่ในเกมยังคงเหมือนเดิมจากภาคก่อน โดยผู้เล่นต้องเดินทางไปยังสถานที่ใหม่เพื่อเชื่อมต่อกับ Chiral Network ซึ่งจะทำให้เกมเชื่อมต่อกับผู้เล่นคนอื่นที่ปลดล็อกพื้นที่เดียวกัน ระบบ Social Strand จะช่วยให้ผู้เล่นร่วมกันสร้างสิ่งปลูกสร้างเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ส่งของ และสามารถแสดงความขอบคุณผ่านการกด Like ให้กับสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ จำนวน Like จะถูกสะสมเป็นแต้มจัดเรตนักส่งของ นับเป็นประสบการณ์มัลติเพลเยอร์ที่สร้างความเห็นอกเห็นใจแม้ไม่ได้พบกันตัวต่อตัว.

การเดินทางที่ยกระดับคุณภาพในทุกภาคส่วน

ในยุคที่ภัยธรรมชาติเพิ่มความท้าทายให้กับการวางแผนและการก่อสร้าง เราจำเป็นต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และการวิเคราะห์อย่างรอบคอบมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของระบบน้ำหลากที่อาจทำให้สะพานพังทลายได้ในพริบตาหากเราเลือกตำแหน่งการวางเพียงเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้า นอกจากนี้ พายุทะเลทรายและพายุหิมะยังสามารถทำให้ทัศนวิสัยลดลงอย่างมาก ซึ่งส่งผลต่อการเลือกเส้นทางและการเตรียมอุปกรณ์ให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น

แม้ว่าภัยธรรมชาติจะไม่ถึงขั้นทำให้เราต้องเริ่มต้นใหม่จากศูนย์ แต่ก็เป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับผู้ที่ไม่เตรียมตัวให้ดี การเตรียมความพร้อมและการวางแผนที่รอบคอบจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามในทุกภารกิจที่เราทำ

ในภาคนี้ เรามีวิธีการจัดการกับศัตรูที่หลากหลายและสะดวกสบายมากขึ้น ตัวเกมอนุญาตให้เราส่องเพื่อมาร์กตำแหน่งศัตรูจากระยะไกล และจะแสดงจำนวนศัตรูที่เหลืออยู่ที่ด้านบนของหน้าจอตลอดเวลา ไม่ว่าคุณจะชอบเล่นในแนวทางบู๊ ลอบเร้น หรือพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะ ตัวเกมก็มีอุปกรณ์และเส้นทางให้เลือกเสมอ

นอกจากนี้ ระบบสกิลติดตัวที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดการเดินทาง ยังช่วยให้ผู้เล่นสามารถเลือกเล่นในแนวทางที่ชอบได้อย่างลงตัว ระบบความเชี่ยวชาญของ Sam ยังช่วยส่งเสริมให้ผู้เล่นรู้สึกถึงพัฒนาการของตัวละครอย่างต่อเนื่อง เช่น หากเราลอบเร้นบ่อย ๆ Sam จะย่องได้เงียบขึ้น หรือหากใช้ปืนประเภทใดบ่อย ๆ ก็จะรีโหลดได้เร็วขึ้น

นอกจากนี้ เกมเพลย์ในส่วนของการเดินทางยังมีการพัฒนา เช่น การรับน้ำหนักได้มากขึ้นจากการแบกของหนักบ่อย ๆ หรือการวิ่งที่ทำให้เหนื่อยได้ยากขึ้น นับว่าเป็นระบบที่ให้รางวัลผู้เล่นอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่เพียงแค่การทำซ้ำ ๆ แล้วได้ผลลัพธ์เหมือนเดิมตลอดไป

สรุป

Death Stranding2 ถือเป็นเกมภาคต่อที่พัฒนาขึ้นในทุกด้าน โดยเฉพาะการนำเสนอที่น่าประทับใจจากนักแสดงจริงที่มาสวมบทบาทในตัวละคร ทำให้ผู้เล่นสามารถดื่มด่ำกับเรื่องราวได้อย่างลึกซึ้ง เกมเพลย์ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความถนัดที่หลากหลายของผู้เล่น ขณะที่กราฟิกและเสียงประกอบยังคงอยู่ในระดับแนวหน้าของเกมฟอร์มยักษ์ในยุคปัจจุบัน แม้ว่าเกมนี้อาจไม่เหมาะกับทุกคน แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกมที่มีความลึกซึ้งและน่าตื่นเต้น

ติดตามข่าวสารเกมอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น PC Console และ Moblie ได้ ที่นี้